วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ซับไพรม์-น้ำมันลามส่งออกยาง ราคาร่วงลูกค้าพลิ้วรับมอบสินค้า



วิกฤติซับไพรม์ผนวกราคาน้ำมันผันผวนทิศทางขาลง จ่อกระทบอุตสาหกรรมยางพาราไทย ลูกค้าใหม่ชะลอซื้อลูกค้าเก่าบิดพลิ้วรับมอบสินค้า แถมยื้อจ่ายเงิน ผู้ประกอบการเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด แต่ยันยังไม่กระทบถึงลูกค้าในประเทศและชาวสวนยาง
นายหลักชัย กิตติพล นายกสมาคมยางพาราไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าวิกฤติเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่เกิดจากวิกฤติซับไพรม์ กระทั่งกระทบถึงสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เวลานี้ยังไม่กระทบอุตสาหกรรมส่งออกยางพาราของไทยโดยตรง แต่เริ่มส่งผลกระทบทางอ้อมแล้ว กล่าวคือไทยส่งออกยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง เพื่อป้อนให้กับอุตสาหกรรมยางรถยนต์ซึ่งปัจจุบันจะส่งไปยังประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้คือโรงงานยางรถยนต์ในจีนสต๊อกเต็ม เพราะสหรัฐฯชะลอซื้อ จึงทำให้ลูกค้าจากจีนชะลอสั่งซื้อวัตถุดิบจากไทยเข้าไปผลิตเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้โรงงานที่สั่งซื้อวัตถุดิบเข้าไปแล้วแต่ยังขายผลิตภัณฑ์ยางเช่นยางล้อไม่ได้ ก็จะยังไม่ชำระค่ายางแผ่นรมควัน ยางแท่งให้กับผู้ส่งออกของไทย มีการดึงเวลาจ่ายนานขึ้นเช่น 2-3 เดือน บางรายก็ขอลดราคาลงโดยอ้างว่าเวลานี้ราคายางลงแล้ว
"เวลานี้อุตสาหกรรมส่งออกยางของไทยเริ่มได้รับผลกระทบ 2 ด้านคือลูกค้าจากจีนชะลอซื้อวัตถุดิบเพราะสต๊อกยางรถยนต์เต็ม เนื่องจากสหรัฐฯชะลอซื้อยางรถยนต์จากจีน เพราะเศรษฐกิจในประเทศถดถอยกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง อีกด้านหนึ่ง เกิดจากราคาน้ำมันที่ผันผวนในทิศทางขาลง ทำให้ราคายางอ่อนตัวลง ผู้ซื้อจึงชะลอซื้อเพราะรอดูภาวะราคาว่าจะลงต่ำสุดเมื่อใด เมื่อราคายังผันผวนอยู่เขาก็จะยังไม่ซื้อ ส่วนคนที่ซื้อไปในราคาสูงขอลดราคาลงก็มี เท่ากับว่าราคายางเวลานี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยของกำลังซื้อในอเมริกาและราคาน้ำมัน"นายหลักชัยกล่าวและว่า
ขณะนี้โรงงานยางรถยนต์ในจีนต้องลดกำลังการผลิตลงบางแห่งลดลงถึง 70% แล้ว เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ดี ขายของไม่ได้ เมื่อขายของไม่ออกก็ไม่อยากนำเงินสดมาชำระ จึงทำให้ผู้ส่งออกยางของไทยได้รับเงินช้า ผู้ซื้อบางรายไม่รับสินค้าเลยก็มี
อย่างไรก็ดีนายหลักชัยกล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ ยังไม่ได้กระทบถึงผู้ประกอบการในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าคนกลางหรือชาวสวนยาง โดยโรงงานยังมีการรับซื้อยางตามปกติส่วนราคาจะเป็นไปตามภาวะตลาด ดีมานด์ซัพพลาย แม้ว่าโรงงานจะได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อต่างประเทศล่าช้าแต่ยังไม่ถึงขั้นบิดพลิ้วหรือจ่ายเงินให้กับพ่อค้าคนกลางหรือชาวสวนล่าช้าแต่อย่างใด
แหล่งข่าวในวงการยางพาราอีกราย กล่าวเพิ่มเติมกรณีที่มีข่าวโรงงานยางขนาดใหญ่หลายแห่ง ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐฯจนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน จ่ายเงินให้กับพ่อค้าคนกลางช้ากว่าปกติโดยอ้างปัญหาขาดสภาพคล่อง ว่า ณ เวลานี้โรงงานขนาดใหญ่ยังไม่เกิดปัญหาดังกล่าว ส่วนกรณีที่โรงงานบางแห่งจ่ายเงินเร็วและให้ราคาสูง โรงงานประเภทนี้เป็นกลุ่มโรงงานที่พ่อค้าคนกลางจะต้องระมัดระวังมากกว่าโรงงานขนาดใหญ่ เพราะโดยปกติการซื้อวัตถุดิบโรงงานขนาดใหญ่จะไม่ซื้อราคาสูง จะซื้อตามราคาตลาด และจ่ายเงินตามกลไกการซื้อขาย เพราะหากโรงงานไม่จ่ายเงิน พ่อค้าคนกลางจะไม่มีเงินไปซื้อยางจากชาวสวน โรงงานจะไม่มีวัตถุดิบเข้ามา หากโรงงานใดซื้อราคาสูงและจ่ายเงินเร็วโรงงานประเภทนั้นน่ากลัวปัญหาสภาพคล่องทางการเงินมากกว่า
นายชนะวงศ์ สมมุติ ประธานกลุ่มขายยางบ้านโพนงาม จังหวัดเลย กล่าวว่าราคายางมีความผันผวนทิศทางขาลง โดยกลุ่มขายยางบ้านโพนงามจะมีการเปิดประมูลขายยางเดือนละ 1 ครั้ง การประมูลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ยางแผ่นดิบอยู่ที่กก.ละ 92 บาท แต่ปัจจุบันยางที่ชาวสวนนำไปขายให้กับพ่อค้าขายได้กก.ละ 87 บาท พ่อค้าให้เหตุผลว่าเป็นไปตามราคาน้ำมัน

จาก.. หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ประจำวันที่ 2-4 ตุลาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น: